วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557

อนุสาวรีีย์ชัยสมรภูมิ

 เมื่อ  พ.ศ.  2483  ประเทศไทย มีกรณีพิพาทกับอินโดจีนของฝรั่งเศส  เกี่ยวกับรัฐบาลไทย ได้เสนอขอให้รัฐบาลฝรั่งเศส ปรับปรุงเส้นเขตเขตแดน ที่ไม่อาจยึดถือเป็นหลักที่แน่นอนได้  ประกอบกับ ไทยเราเคย ได้ับความขมขื่นต่อเหตุการณ์ก่อน ๆ  มา  จึงคิดที่จะให้มีการปรับปรุงเส้นเขตแดนเสียใหม่

    ฝรั่งเศสปฏิเสธในคำขอร้องของรัฐบาลไทย  กรณีพิพาท จึงได้เริ่มขึ้นตามชายแดนบางแห่ง และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น  ตั้งแต่ฝรั่งเศสเริ่มมาทำการทิ้งระเบิดที่จังหวัดนครพนม  ไทยจึงทำการทิ้งระเบิดตอบแทนบ้าง  เป็นสาเหตุให้ต่างฝ่ายต่างก็เคลื่อนกำลังเข้าประชิดชายแดนกันทั้งสองฝ่าย  การปะทะกันด้วยกำลังทหารและอาวุธ ได้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมกราคม  พ.ศ.  2484  จนถึงวันที่  28  มกราคม  พ.ศ.  2482  และกรณีพิพาทจึงได้ยุติลงด้วยการประนีประนอมของทั้งสองฝ่าย

     จากกรณีพิพาทครั้งนี้  ประเทศไทยได้สูญเสียผู้กล้าหาญสละชีพเพื่อชาติไปเป็นจำนวน  59  นาย  มีทั้งทหารบก  ทหารเรือ  ทหารอากาศ  ตำรวจ  และพลเรือน  ทำให้ชาวไทยเกิดความสามัคคีกลมเกลียว รักใคร่ปรองดองกัน  มีความรักชาติ  รักความเป็นไทย  ทำให้ประเทศต่าง ๆ  ทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทย ในฐานะประเทศเอกราช  ชาวไทยมีความภูมิใจในเกียรติของตน  ทุกคนต่างร่วมมือร่วมใจกันอย่างพร้อมเพรียง

     เมื่อเหตุการณ์ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว  รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ได้ระลึกถึงคุณความดีของบรรดาข้าราชการทหาร  ตำรวจ  พลเรือน และราษฎรที่ได้สละชีวิตเพื่ออิสรภาพ และเกียรติศักดิ์แห่งชาติไทย  จึงได้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้นไว้ที่กรุงเทพมหานคร  ณ ต้นทางหลวงสายพหลโยธิน  (ถนนประชาธิปัตย์)  ตอนถนนพญาไทยบรรจบกับถนนราชวิถี  ให้ชื่อว่า "อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ"  เพื่อเป็นเกียรติและเทิดทูนคุณงามความดีของวีรชนเหล่านั้น  และเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจสำหรับชาวไทยให้ระลึกว่า  ชีวงิตและร่างกายย่อมแตกดับไปเป็นของธรรมดา  แต่ชื่อเสียงและเกียรติคุณความดีนั้นยังคงปรากฏอยู่ตลอดเวลา 


ที่มา http://allknowledges.tripod.com/chaimemo.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น